เลี้ยงลูกแบบ UNPLUG

 

เลี้ยงลูกแบบ unplug

ความทุกข์อีกเรื่องหนึ่งของพ่อแม่ คือการที่ลูกเสพติดเกม    

     ครั้งหนึ่ง (เมื่อไม่นานมานี้) บรรดาพ่อแม่ ผู้ใหญ่ รวมไปถึงนักวิชาการพัฒนาการเด็ก พากันวิตกว่า
ทีวีนี่แหละตัวร้ายทำร้ายลูกหลานของเรา ทั้งสุขภาพกาย ใจ และพฤติกรรม

     มาวันนี้ ความห่วงกังวลของพ่อแม่เรื่องลูกติดทีวียังไม่ทันมีทางออก ลูกๆ ก็หันมาติดเกม ติดคอมพิวเตอร์
เพิ่มขึ้นอีก
    ปัญหาเรื่องติดเกมของลูกกลายมาเป็นความทุกข์ของพ่อแม่ ไม่แพ้ลูกติดยาเสพติด แล้วอย่าง
นี้ถ้าจะใช้มาตรการเด็ดขาด ... ถอดปลั๊กซะเลยจะดีมั้ย
!!

    ดังนั้นถ้าเราคิดจะ "unplug" ลูก สำคัญกว่าการถอดปลั๊กทีวีหรือคอมพิวเตอร์ เราควรหาวิธีช่วยลูกให้รู้
จักควบคุมตัวเอง รู้ว่าเวลาไหนเล่นเกม ดูทีวีได้ เวลาไหนต้องเลิกเล่นเลิกดู รู้จักตัดใจจากความเพลิดเพลิน
ตรงหน้าได้ เพื่อทำสิ่งต่างๆ ที่ควรทำไม่ให้เสียสมดุลในชีวิตประจำวัน ซึ่งต้องบอกว่าเรื่องนี้คุณพ่อคุณแม่
ผู้ใหญ่ในบ้านจะต้องลงแรงมากหน่อย ด้วยวิธีเหล่านี้ค่ะ

    สื่อสารทางบวก ร้อยทั้งร้อยเลยล่ะ ถ้าคุณวีนใส่ลูกที่เขาไม่ยอมลุกจากหน้าจอ เขาจะโต้ตอบกลับอย่าง
รุนแรง
    อย่าให้ลูกจมอยู่ในโลกของตัวเอง หมกมุ่นอยู่หน้าจอทั้งวัน เราควรแวะเวียนเข้าไปหาเขา ชวนเขา
ไปทำกิจกรรม
     พาลูกออกห่างจากจอ ด้วยการพาออกไปข้างนอกในวันหยุดแทนที่จะปล่อยให้ลูกอยู่บ้านเล่นเกม

ช่วยลูก มองหากิจกรรมนอกบ้านที่น่าสนใจ เช่น การแสดงดนตรี นิทรรศการ เข้าค่าย
    สอนลูกให้รู้จักความสุขด้านอื่น ทำให้ลูกรู้ว่ายังมีสิ่งอื่นๆ
  อีกมากมายที่จะทำให้เกิดความสุขได้
    พ่อแม่ต้องรู้เท่าทันเทคโนโลยี  วิธีส่งSMS วิธีเล่นแช็ต หรือลองเล่นเกมที่ลูกเล่นเอาไว้บ้าง
(แต่อย่าไปติดเกมแทนลูกล่ะคะ) เพื่อเข้าใจและมีทัศนคติที่ดี

  บอกเทคนิควิธีตั้งมากมาย แต่คุณๆ จะ "unplug" ลูก

สำเร็จหรือไม่ สำคัญอยู่ที่มีเวลาให้ลูกหรือเปล่าเท่านั้น

แหละคะ